เป็นเวลาติดต่อกันหลายเดือนที่บ้านของผู้เขียน
ใช้วิธีเดินเครื่องปั่นไฟเพื่อสูบน้ำทั้งน้ำใช้
และน้ำสำหรับการเกษตร
และเก็บไฟฟ้าส่วนหนึ่งไว้ในโคมไฟตุกตา
คิดเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำมันปั้นไฟฟ้าในช่วงเวลานั้น
เกือบจะถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียว
ทำให้ต้องคิดหาวิธีการที่จะทำให้เครื่องปั่นไฟที่ซื้อมา
ให้สามารถเดินเครื่องได้โดยไม่ต้องใช้น้ำมัน
ซึ่งวิธีการหนึ่งที่คิดไว้ก็คือ
การใช้แก๊สชีวมวล
(Gasifier)
มีเรื่องเล่าขานที่ผู้เขียนได้ยินมาตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเรียน ว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่น้ำมันขาดแคลน มีคนทำให้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันวิ่งได้โดยการติดตั้งเตาเผาฟืน แล้วเอาควันไฟที่ได้ไปเดินเครื่องรถยนต์แล่นไปได้โดยไม่ต้องใช้น้ำมัน ทุกวันนี้ในเมืองไทยยังพอมีคนเก็บรักษาซากรถยนต์ใช้ฟืนดังกล่าวไห้คนรุ่นหลังได้ศึกษา
หนทางไม่ง่ายอย่างที่คิด
ผู้เขียนได้ลองสอบถามช่างซ่อมรถมอเตอร์ไซด์
และช่างซ่อมรถยนต์ตามร้านซ่อมในท้องถิ่นที่ผู้เขียนอาศัยอยู่
ปรากฏว่าช่างเหล่านี้ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
ไม่มีทางทำได้
และไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
ผู้เขียนไม่ได้ละความพยายาม
เนื่องจากยุคนี้เป็นยุคแห่งข่าวสารข้อมูล
ทำให้การค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับแก๊สชีวมวลทำได้ไม่ยาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ซึ่งมีเรื่องราวเกี่ยวกับแก๊สชีวมวลให้ศึกษามากมายจากทุกมุมโลก
หลังจากที่ได้รวบรวมข้อมูลได้ระยะหนึ่ง
ผู้เขียนก็ได้พยายามพัฒนาระบบเตาปฏิกรณ์สำหรับผลิตแก๊สชีวมวลขึ้น
สำหรับเดินเครื่องปั่นไฟฟ้าที่มีอยู่
แม้ช่วงที่ผู้เขียนเขียนบทความชุดนี้
การพัฒนาระบบแก๊สชีวมวลของผู้เขียนจะยังไม่สมบูรณ์
หรือยังไม่ถึงขั้นใช้งานได้จริง
แต่ก็ได้ประสบการณ์
และพบปัญหาอุปสรรค์ที่ต้องพัฒนาต่อ